Skip to main content

รีวิว The Tomorrow War (2021) สงครามแห่งอนาคต

หนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ที่มาพร้อมกับความมันส์โคตรๆ The Tomorrow War (2021) สงครามแห่งอนาคต เรื่องราวของหนังเป็นโครงเรื่องเอเลี่ยนถล่มโลกยับแล้วมีตัวเอกเป็นกุญแจหยุดยั้งสงคราม เหตุการณ์ที่ทหารจากอนาคตย้อนเวลามาปรากฎต่อสายตาชาวโลก ผ่านการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก จนทำให้ทั่วโลกต้องหยุดทุกอย่างและหันมาร่วมใจเกณฑ์ทหารไปรบในสงครามแห่งอนาคต ตัวแต่เรื่องกลับไม่ได้ให้พระเอกต้องกระเหี้ยนกระหือไปรบในทันทีอย่างที่คิด แม้จะมีเกริ่นนำแล้วว่าเขาคือผู้นำอดีตทหารผ่านศึกอิรักที่มีฝีมือเลยก็ตาม รีวิวซีรี่ย์สายวายสุดฟิน

แม้หนังจะใช้เวลาปูหลายอย่างนานถึงเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะข้ามเวลาไปอนาคต แต่พอเข้าเรื่องส่วนนี้ตัวเรื่องก็จุดติดเดินเครื่องแบบแทบไม่แตะเบรค เข้าสู่โลกช่วงหายนะท้ายสงครามเอเลี่ยนทันที แต่ก็ยังพยายามปิดบังโฉมหน้าเอเลี่ยนในเรื่องไว้อีกสักพัก ซึ่งตั้งแต่แรกเริ่มก็ไม่มีฉากไหนให้เห็นตัวจะๆ เลย (มีแต่ไกลลิบๆ) ซึ่งจุดนี้ถูกอธิบายเหตุผลไว้ในช่วงแรกว่า ถ้าสังคมในปัจจุบันได้เห็นเจ้านี่จะไม่มียอมเป็นทหารเกรฑ์มารบแน่ๆ ซึ่งการปิดบังหน้าเอเลี่ยนก็ทำให้คนดูเองรู้สึกอึดอัดกับการเห็นทีละนิดๆ ว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ แล้วจะร้ายกาจขนาดถล่มโลกแบบนี้ได้จริงๆ หรือ ซึ่งพอตัวเรื่องเปิดให้เห็นเราก็เข้าใจในทันทีว่า เอเลี่ยนในเรื่องนี้โหดจริงๆ ในระดับเดียวกับมิมิค Edge of Tomorrow แต่มาในชื่อ White Spike (ไวท์สไปก์ เดือยแหลมสีขาว ชื่อมาจากตัวเอเลี่ยนในเรื่องยิงเดือยแหลมมาเป็นอาวุธระยะไกลได้) และก็มาเป็นฝูงนรกมหาศาลแบบเดียวกัน (ให้ความรู้สึกเหมือนคลื่นซอมบี้ world war z ในบางฉากอีกด้วย)

ตัวเรื่องต้องบอกว่าโคตรมันส์และดูเพลินสนุกมากๆบอกตรงๆ ว่าถ้าให้คิดข้อเสียหรือจุดด้อยของเรื่องหลักๆ คงมีแค่ การที่เรื่องมีความคล้ายหนังดังหลายๆ เรื่องแบบหยิบยืมนั่นนี่มาผสมกันเท่านั้น จนดูแอบโหลแล้วก็เดาเรื่องได้ไม่ยาก ซึ่งถ้าใครได้ดู Edge of Tomorrow ก็คงรู้สึกได้เลยถึงความเหมือน แต่ก็ต้องบอกว่าถ้าชอบ Edge แล้วรอภาคสองอยู่ เรื่องนี้ก็คือทดแทนกันได้เลย

อีกจุดที่รองลงมาคือพวกเหตุผลกับทฤษฎีเส้นเวลาต่างๆ อาจจะไม่ได้เน้นนัก คือตัวเรื่องก็พยายามอธิบายหลายๆ อย่างให้มีเหตุผล แต่มันก็ยังพอช่องโหว่ให้ถกเถียงกันอยู่บ้าง รวมถึงสถานการณ์ในช่วงท้ายเรื่องที่แอบจิกกัดอเมริกากับรัสเซียรวมถึง UN ด้วย มันดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือไปหน่อยว่าประเทศมหาอำนาจของโลกในช่วงเวลาคับขันระดับสิ้นโลกนี้ยังดูงี่เง่าเกินไปหน่อยเท่านั้น แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก มันก็คือเรื่องแบบเดิมๆ ที่หนังแนววันสิ้นโลกใช้กัน ที่ให้ตัวเอกได้โอกาสช่วยโลกด้วยตัวเองมากกว่าไปพึ่งรัฐบาลเหล่านี้

Comments

Popular posts from this blog

The Card Counter (2021)

The Card Counter (2021)   ภาพยนตร์ดราม่าอาชญากรรมอเมริกันปี 2021 เขียนบทและกำกับโดย Paul Schrader นำแสดงโดย Oscar Isaac, Tiffany Haddish, Tye Sheridan และ Willem Dafoe Martin Scorsese ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้าง   ข่าวเกี่ยวกับหนัง เรื่องราวของ William Tell เป็นนักพนันและอดีตทหารที่มุ่งมั่นที่จะปฏิรูปชายหนุ่มที่ต้องการแก้แค้นศัตรูร่วมกันจากอดีตของพวกเขา การดำรงอยู่แบบสปาร์ตันของเขาบนเส้นทางคาสิโนถูกทำลายลงเมื่อเขาได้รับการติดต่อจาก Cirk ชายหนุ่มผู้อ่อนแอและโกรธแค้นที่แสวงหาความช่วยเหลือในการดำเนินการตามแผนการแก้แค้นผู้พันทหาร เทลมองเห็นโอกาสในการไถ่ถอนผ่านความสัมพันธ์ของเขากับเซิร์ก โดยได้รับการสนับสนุนจากนักการเงินการพนันผู้ลึกลับ ลา ลินดา (ทิฟฟานี่ แฮดดิช) เทลพาเซิร์กไปกับเขาบนท้องถนน จากคาสิโนหนึ่งไปยังอีกคาสิโนหนึ่ง จนกระทั่งทั้งสามคนที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ตั้งเป้าที่จะคว้าแชมป์เวิลด์ซีรีส์ของโป๊กเกอร์ในลาสเวกัส แต่การรักษาเซิร์กไว้ตรงและแคบพิสูจน์ได้ว่าเป็นไปไม่ได้ ลากเทลกลับเข้าไปในความมืดมิดในอดีตของเขา

รีวิว The Rental บ้านเช่ารอเชือด

ภาพยนต์สยองขวัญอีกเรื่องที่น่าจับตามอง The Rental บ้านเช่ารอเชือด ผลงานของผู้กำกับ Dave Franco นำแสดงโดย Dan Stevens,Alison Brie,Sheila Vand เรื่องย่อ : ชาร์ลี (แดน สตีเว่นส์) กับ มิเชลล์ (อลิสัน บรี) ภรรยาของเขา และ จอช (เจเรมี อัลเลน ไวต์) น้องชายของชาร์ลี กับ มีน่า (เชียลา แวนด์) แฟนของจอชและเป็นพาร์ทเนอร์ทำงานของชาร์ลี ได้เช่าบ้านพักตากอากาศริมทะเลที่สุดแสนจะเพอร์เฟกต์ไว้ แต่แล้วเมื่อพวกเขาเข้าไปพัก ก็พบว่าบ้านมีการติดตั้งกล้องเพื่อคอยแอบดูพฤติกรรมของพวกเขา เรื่องราวยิ่งเลวร้ายเมื่อความลับของที่ปกปิดไว้ถูกเปิดเผยออกมา ขณะเดียวกันก็มีใครบางคนคอยตามดูพวกเขาอยู่ใกล้ๆ  รีวิวซีรี่ย์พีเรียดย้อนยุค

The Forgotten Battle (2020) สงครามที่ถูกลืม

The Forgotten Battle (2020)  เป็นภาพยนตร์ดัตช์สงครามโลกครั้งที่สองปี 2020 กำกับโดย Matthijs van Heijningen Jr. ที่บรรยายถึง Battle of the Scheldt ในปี 1944 ภาพยนตร์เรื่องนี้ติดตามทหารฝ่ายอักษะชาวดัตช์ที่เล่นโดย Gijs Blom นักบินฝ่ายสัมพันธมิตรชาวอังกฤษ รับบทโดย เจมี่ แฟลตเตอร์ส และหญิงต่อต้านจากซีแลนด์ที่รับบทโดยซูซาน แรดเดอร์ ที่ใช้ประวัติศาสตร์จำนวนหนึ่งเป็นฉากหลัง รวมถึง Battle of Walcheren Causeway ในเดือนตุลาคม 1944  รีวิวซีรี่ย์พีเรียดย้อนยุค เรื่องราวเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 1944 บนเกาะ Walcheren ที่ถูกน้ำท่วม Zeeland ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรหลายพันคนกำลังต่อสู้กับกองทัพเยอรมัน สามชีวิตหนุ่มสาวเชื่อมต่อกันอย่างแยกไม่ออก เด็กชายชาวดัตช์ต่อสู้เพื่อชาวเยอรมัน นักบินเครื่องร่อนชาวอังกฤษ และเด็กหญิงจากซีแลนด์ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านต่อเจตจำนงของเธอ ถูกบังคับให้ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญซึ่งส่งผลต่อทั้งเสรีภาพของตนเองและเสรีภาพของผู้อื่น